http://www.nettrek.com.au/~brian/foggy.mid
ไบรอัน เจนกินส์
เพลงที่รำลึกถึงกบฏอีสเตอร์ ดับลิน พ.ศ. 1916
เช้าวันอีสเตอร์วันหนึ่ง ขี่รถ I ไปตามหุบเขาไปยังงานแสดงสินค้าในเมือง
มีทหารติดอาวุธเป็นฝูงบินผ่านข้าพเจ้าไป
ไม่มีเสียงขลุ่ยใดส่งเสียงครวญคราง ไม่มีเสียงกลองรบใดส่งเสียงรอยสักอันดังของมัน
แต่เสียงระฆังของแองเจลัสดังขึ้นท่ามกลางน้ำค้างที่ปกคลุมไปด้วยหมอก
เหนือเมืองดับลินอย่างภาคภูมิ พวกเขาชูธงสงคราม
เพราะการตายใต้ท้องฟ้าไอริชยังดีกว่าการตกลงไปบนชายฝั่งต่างประเทศ
และจากที่ราบแห่งมีธผู้ภักดี เหล่าผู้กล้าก็รีบรุดผ่านเข้ามา
แต่บุตรชายของ Britannia พร้อมปืนระยะไกลได้ยิงพวกเขาตกใน
น้ำค้างหมอก
'อังกฤษเคยสั่งให้ห่านป่าของเราไป เพื่อว่าประเทศเล็ก ๆ จะได้เป็นอิสระ
และหลุมศพอันโดดเดี่ยวของพวกเขานอนอยู่ข้างคลื่นของ Suvla* บนขอบอันห่างไกล
ทะเล.
โอ้ หากพวกเขาตายข้างคอนนอลลี่หรือต่อสู้กับแพดดี้ เพียร์สด้วย
จากนั้นหลุมศพของพวกเขาเราจะเก็บไว้ที่ที่ชาวเฟเนียนนอนอยู่ในผ้าห่อศพ
น้ำค้างหมอก
ค่ำคืนนั้นมืดมน และรอยแตกของปืนไรเฟิลทำให้วงล้ออัลเบียนที่น่าเกรงขาม
และเหนือส่วนหลักนั้น มีเปลวไฟเจ็ดลิ้นส่องอยู่บนเส้นเหล็ก
ดาบที่ส่องประกายแต่ละเล่มถูกอธิษฐานว่า 'จงมุ่งสู่ไอร์แลนด์ บุตรของเธอจงซื่อสัตย์'
และเมื่อรุ่งเช้า ธงสงครามยังคงสั่นไหวท่ามกลางหมอกหนา
น้ำค้าง.
ผู้กล้าหาญล้มลง และเสียงระฆังบังสุกุลก็ดังขึ้นอย่างโศกเศร้าและชัดเจน
สำหรับทุกคนที่เสียชีวิตในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี
และโลกก็จ้องมองชายผู้กล้าหาญเหล่านั้นด้วยความประหลาดใจ แต่มีเพียงไม่กี่คน
ผู้ต่อสู้ต่อสู้เพื่อให้แสงแห่งอิสรภาพส่องผ่านน้ำค้างหมอก
ฉันกลับไปที่หุบเขาอีกครั้ง แม้ว่าหัวใจของฉันจะเจ็บปวดด้วยความโศกเศร้าก็ตาม
เพราะฉันจากไปที่นั่นกับผู้ชายที่กล้าหาญบางคนซึ่งฉันจะไม่มีวันได้เห็นอีกต่อไป
แต่ฉันจะไปๆมาๆในความฝัน - และฉันจะเฝ้าดูและสวดภาวนาเพื่อคุณ -
เพราะทาสได้หนีไปแล้ว โอ เจ้ากบฏที่ตายไปแล้ว ในเมื่อเจ้าตายในน้ำค้างหมอก